การมีบ้านสักหลังเป็นความฝันของใครหลายคน ไม่ว่าบ้านนั้นจะเป็นหลังเล็ก หลังใหญ่ เป็นทาวเฮ้าส์ บ้านเดี่ยว หรือคอนโด แน่นอนว่าเมื่อมีความพร้อมในการซื้อบ้านในฝันแล้ว ทุกคนก็ย่อมอยากให้บ้านนั้นมีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป วันนี้เรามีเทคนิคดีๆในการเลือกซื้อบ้านให้ถูกใจ คุ้มค่า คุ้มราคา มาฝากกัน เพื่อจะได้นำเทคนิคนี้ไปใช้ในการเลือกบ้านของตัวเอง

1. ความพร้อมด้านการเงิน
สำรวจความพร้อมด้านการเงินของตัวเองว่ามีงบประมาณเท่าไหร่ หรือมีเงินผ่อนต่อเดือนมากน้อยแค่ไหน เมื่อตัดหนี้สินต่างๆที่ต้องชำระเป็นรายเดือนอยู่แล้ว เช่น ค่างวดรถ ค่าบัตรเครดิต เป็นต้น เพื่อที่จะได้เลือกบ้านในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ค่างวดผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้สุทธิ เพื่อไม่ให้เป็นภาระหนักเกินไปจนกระทบกับการใช้ชีวิต อีกทั้งอย่าลืมว่าบ้านมากับคำว่าบาน และค่าบำรุงรักษา ควรมีเงินสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน อย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน
2. สำรวจความต้องการของตนเอง
สำรวจสมาชิกในครอบครัวว่าเป็นครอบครัวเล็กหรือใหญ่ หากสมาชิกในครอบครัวมีเยอะ ต้องมีห้องนอนส่วนตัวของแต่ละคน และพื้นที่ส่วนกลางเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน และทุกคนต้องอยู่ในบ้านอย่างไม่แออัด หากเป็นคนโสด หรือคู่รัก ควรคิดวางแผนในอนาคตด้วยถ้าคิดจะมีลูก หรือดูแลผู้สูงอายุ ควรคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานในระยะยาวนอกจากนี้ต้องคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ตัวเองว่าชอบแบบไหน ชอบอยู่ในเมือง หรือชอบแบบชนบท หากชอบอยู่ในเมืองคอนโดอาจตอบโจทย์มากกว่า แต่ถ้าชอบอยู่แถวชานเมือง บรรยากาศสงบ ไม่วุ่นวาย การเลือกบ้านตอบโจทย์ข้อนี้มากกว่า
3. ทำเลที่เหมาะสม
ให้คำนึงถึงทำเลที่ตั้งบ้านด้วย หากบ้านตั้งอยู่ใกล้กับระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถประจำทาง ใกล้ทางด่วน หรือถนนสายหลัก เดินทางใกล้ที่ทำงาน โรงเรียนลูก ไม่ไกลจากโรงพยาบาล สถานีตำรวจ ตลาดสด ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ อันนี้น่าสนใจมากกว่า เพราะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย อีกทั้งควรตรวจสอบประวัติน้ำท่วมด้วย หากทำเลนั้นมีน้ำท่วมบ่อยก็ไม่ควรเลือกซื้อ นอกจากนี้หากต้องการซื้อบ้านเพื่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือลงทุนระยะยาว คงต้องมองให้ครบทุกมุม เพราะไม่ใช่ทุกทำเลจะเหมาะกับการลงทุนได้
4. เลือกโครงการที่น่าเชื่อถือ
เลือกซื้อบ้านทั้งที ควรเลือกซื้อกับโครงการที่น่าเชื่อถือ โดยพิจารณาจากชื่อเสียงของผู้ประกอบการและผลงาน, มาตรฐานของวัสดุที่ใช้และการก่อสร้าง รวมถึงการบริการหลังการขายด้วย เพื่อลดความเสี่ยงด้านคุณภาพและการก่อสร้าง

5. รูปแบบบ้าน
เลือกรูปแบบบ้านที่ตอบโจทย์กับความต้องการของคุณมากที่สุด เพราะบ้านจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ซึ่งรูปแบบบ้านก็มีอยู่หลายแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ บ้านแฝด คอนโด ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกันไป อีกทั้งควรพิจารณาถึงขนาดและจำนวนห้องตามสมาชิกในครอบครัวด้วย ซึ่งบ้านที่ดีต้องแบ่งห้องออกเป็นสัดส่วนลงตัว มีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว นอกจากนี้บางคนอาจพิจารณาฮวงจุ้ยบ้านด้วย ดูทิศทางของบ้าน ทิศทางลม ทิศทางแดด ตำแหน่งของห้องต่างๆ เป็นต้น
6. ตรวจสอบสภาพบ้าน
หากซื้อบ้านมือสองอาจต้องตรวจสอบสภาพบ้านให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง รอยร้าว ระบบน้ำ ระบบไฟ หลังคา ผนัง ประตู หน้าต่าง รวมถึงสุขภัณฑ์ต่างๆอย่างละเอียด อาจจ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบด้วยก็ได้ แต่หากเป็นบ้านใหม่ก็ตรวจสอบคล้ายกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือควรตรวจสอบสัญญาซื้อขายให้ดีๆ อ่านเงื่อนไขในสัญญาอย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องกำหนดการชำระเงิน การโอนกรรมสิทธิ์ การรับประกัน และข้อตกลงอื่นๆ
7. เยี่ยมชมบ้านจริง
การเข้าไปเยี่ยมชมบ้านจริงจะทำให้เห็นอะไรหลายอย่างได้ดีกว่า และควรไปดูในหลายช่วงเวลา เพื่อดูสภาพแสงแดด การจราจร และบรรยากาศในแต่ละช่วงเวลา หากเป็นไปได้ ลองพูดคุยกับเพื่อนบ้านในโครงการเพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ สภาพแวดล้อม และปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้น
การซื้อบ้านที่ถูกใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ ทำเลที่ตั้ง รูปแบบบ้าน สภาพแวดล้อม เพื่อให้ได้บ้านที่ทั้งถูกใจ และคุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด
บทความแนะนำ
- 10 จุดที่ต้องดู กับการตรวจรับบ้านด้วยตัวเองแบบมืออาชีพ
- 7 ข้อที่ควรรู้ว่าทำไมต้องวางแผนเตรียมตัวก่อนสร้างบ้าน
- สร้างบ้านทั้งที ต้องรู้อะไรบ้าง?
บริษัท คอมฟอร์ท แมกซ์ จำกัด Comfort Max Co., Ltd.
บริษัทรับสร้างบ้าน รับเหมางานก่อสร้างโกดัง โรงงาน บ้าน อพาร์ทเมนท์ โรงแรม คอนโดมิเนียม ที่มีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มานานถึง 20 ปี
ช่องทางการติดต่อ
Facebook : Comfort Max Fanpage
Line : @042bwtpc
Tiktok : comfort.max